ความคืบหน้าการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (ฉบับที่ ๖)
จดหมายข่าว
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารขึ้นบัญชีสู่มรดกโลก
ฉบับที่ ๖ ประจำวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
นำเสนอวัสดุแบบโบราณมาใช้ในบูรณะพระธาตุเจดีย์
ตามที่กรมศิลปากรโดยสำนักศิลปากรที่ ๑๔ นครศรีธรรมราชได้จ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดบูรณาไทเป็นผู้ดำเนินการบูณะองค์พระบรมองค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ด้วยงบประมาณแผ่นดินประจำปี ๒๕๕๙ และขณะนี้ได้ดำเนินงายบูรณะไปถึงงวดที่ ๒ (ในจำนวน ๓ งวด) ดังความทราบแล้วนั้น
มีรายงานข่าวจากฝ่ายวิชาการของคณะกรรมการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกแจ้งว่า คณะกรรมการฯได้ปรับแก้และเพิ่มเติมต้นฉบับ Nomition Dossier บทว่าด้วย ”ความแท้” (Authenticity) ขององค์พระบรมธาตุเจดีย์เข้าไปอีกส่วนหนึ่ง คือการเลือกใช้วัสดุ “ปูนหมักและปูนตำ” ซึ่งเป็นวัสดุสูตรโบราณที่กรมศิลปากรและหุ้นส่วนจำกัดบูรณาไทกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ โดยจะนำเสนอไว้ในเอกสารดังกล่าว เพราะถือว่าเป็น “ข้อเด่น” ของการบูรณะองค์พระบรมธาตุองค์นี้ ที่ยังรักษาความเป็นขนานแท้ดั้งเดิมไว้ได้อยู่จนปัจจุบัน
“ปูนหมักและปูนตำ” เป็นวัสดุก่อสร้างปูชนียสถานที่มีมาแต่โบราณ ไม่ทราบชัดว่าช่างเมืองนครได้รับความรู้การผลิตปูนดังกล่าวมาจากที่ใด ระหว่างอินเดียกับจีน ในการบูรณะครั้งนี้ใช้ปูนตำสำหรับฉาบผิวชั้นนอกสุดขององค์เจดีย์ เป็นปูนตำสูตรโบราณซึ่งใช้ปูนเหนียวชนิดละเอียดมาปั้นเป็นก้อนกลม ตากให้พอแห้ง แล้วเตรียมกระดาษสาหรือกระดาษฟางแช่น้ำให้เปื่อยยุ่ย เพื่อนำไปผสมกับปูนเหนียว กระดาษจะทำให้เนื้อปูนจับตัวกันได้ดีขึ้น จากนั้นจึงนำเยื่อกระดาษมาผสมกับปูนเหนียวแห้งใส่ครกแล้วตำให้เข้ากันโดยไม้ตำและต้องตำอย่างสม่ำเสมอ จนเยื่อกระดาษเปื่อยมาผสมกับเนื้อปูนสนิท เรียกว่า “เรียกว่า” จากนั้นจึงนำปูนตำมาใส่ถุงพลาสติกรัดให้แน่นไม่ให้อากาศเข้า แช่ไว้ในถังน้ำเพื่อหมักเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๒ สัปดาห์ก่อนนำมาใช้ เรียกว่า“ปูนหมัก”
ผิวองค์พระบรมธาตุนครศรีธรรมราชที่ชำรุดโป่งพองและกะเทาะหลุดร่อน ช่างทำการซ่อมสกัดส่วนที่ชำรุดออก แล้วแบตกแต่งด้วยปูนหมัก ขณะเดียวกันก็ได้ทำการสกัดผิวปูนหมักองค์เจดีย์เป็นจุดๆ โดยตลอดพื้นผิว เพื่อให้ปูนหมักสามารถยึดเกาะได้อย่างมั่นคงแข็งแรง จากนั้นจึงทำการขัดตกแต่งผิวด้วยปูนตำตามกรรมวิธีแบบโบราณ ทั้งนี้จะมีการผสมผงสีฝุ่นเพื่อลดความขาวของปูนตำด้วย
ปูนหมักปูนตำเป็นงานที่ทำยากเพราะแข็งตัวช้า หากจะเร่งให้ปูนแข็งตัวต้องใสน้ำตาล หรือน้ำอ้อยแต่หากใสมากไปก็จะทำให้สีปูนฉาบเป็นลายด่าง และใช้เวลานานกว่ารอยด่างจะหายไป การเร่งให้ปูนแข็งตัวบางจุด ช่างปัจจุบันจึงใช้น้ำคาร์บอเนต (น้ำโซดา) พ่นเป็นละอองใสผนังแทน แต่เสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
เหตุนี้ฝ่ายวิชาการจึงได้บันทึกเรื่องนี้เพิ่มเติมเข้าไปในเอกสาร Nomination Dossier เพื่อแสดง“ความแท้ของวัสดุ” พระบรมเจดีย์นครศรีธรรมราช
ผ.ศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์
ประธานกรรมการฝ่ายวิชาการ
รายงาน