จดหมายข่าว
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารขึ้นบัญชีสู่มรดกโลก
ฉบับที่ ๑ ประจำวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ความคืบหน้าของการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเพื่อขึ้นเป็นบัญชีโลก ฉบับที่ ๑

 เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม  ๒๕๕๙  เวลา ๑๓.๓๐น. ที่ผ่านมา คณะกรรมการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อขึ้นเป็นบัญชีโลก  ได้จัดประชุมประจำเดือนสิงหาคม  ๒๕๕๙  โดยมีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุม มีสาระสำคัญซึ่งเป็นที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางสองเรื่อง มีใจความสรุปดังนี้

เรื่องแรก  แผนการจัดการอนุรักษ์และคุ้มครองแหล่งมรดกวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนการจัดการอนุรักษ์และคุ้มครองแหล่งมรดกดังกล่าวเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๙ และให้นำเสนอต่อที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ กรรมการจังหวัด และหัวหน้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชน (ครั้งที่ ๘/ ๒๕๕๙) ในวันที่  ๓๐  สิงหาคม ๒๕๕๙ เพื่อให้การรับรองแผนการดังกล่าวก่อนประกาศใช้แผนอนุรักษ์ฯของจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป

เรื่องที่สอง  การจัดตั้งมัคคุเทศก์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนการจัดการก่อตั้งมัคคุเทศก์วัดพระมหาธาตุฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดคุณค่าอันโดดเด่น ความแท้และความสมบูรณ์ในการเป็นมรดกที่มีชีวิตของวัดพระมหาธาตุฯ  ในการนี้มุ่งจัดทำหลักฐานการสอนวิชา ”พระธาตุศึกษา”  แก่นักเรียน นักศึกษาทั้งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาขั้นอุดมศึกษาของสถาบันศึกษาทุกแห่ง รวมทั้งนักศึกษาในสังกัดการศึกษานอกระบบ  และการศึกษาตามอัธยาศัยทุกแห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๐ เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังมีโครงการ ”อบรทมัคคุเทศก์” นำชมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นประจำตลอดทั้งปี โดยแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรก คือ “ยุวมัคคุเทศก์” ส่วนกลุ่มที่สอง คือ  “มัคคุเทศก์อาสาสูงวัย”  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผู้นำชมแหล่งมรดกวัดพระมหาธาตุฯ  ที่มีความรอบรู้ในข้อมูลของแหล่งมรดกอย่างถูกต้องและลุ่มลึก  สามารถอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว  ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๙  เป็นต้นไป สำหรับเป้าหมายการอบรมมัคคุเทศก์ในปี ๒๕๕๙ จะจัดอบรมแก่ยุวมัคคุเทศก์ ๘ รุ่น  รวม ๔๐๐ คน  และอบรมมัคคุเทศก์อาสาสูงวัย ๔ รุ่น  รวม ๕๒๐ คน หากโครงการระยะแรกสำเร็จก็จะขายผลไปยังรุ่นปี ๒๕๖๐ ต่อไป

ผ.ศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์
ประธานกรรมการฝ่ายวิชาการ
รายงาน